เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555   ธนาคารเกียรตินาคิน และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัีด workshop พร้อมประกาศผลผู้ชนะเลิศ โครงการ KK BIZ RE Innovation Awards 2012 โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วม 162 แผนงาน จาก 19 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศและประชาชนทั่วไป  ผลปรากฎว่า ผลงานของ นส.ทิตาพร พลราชม นักศึกษาสาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ชั้นปีที่ 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำผลงานออกแบบชุดครัวผู้สูงอายุ คว้ารางวัลชนะเลิศ  ประเภทการออกแบบแนวความคิดการพัฒนาโครงการ  รับทุนการศึกษา 50,000 บาท

นส.ทิตาพร พลราชม ได้เล่าถึงผลงานการออกแบบครั้งนี้ว่า “ก่อนหน้านี้ธนาคารเกียรตินาคิน ผู้จัดงานประกวด ได้มาเวิร์คชอปประชาสัมพันธ์งานประกวดที่คณะพอดี จึงสนใจและลองส่งประกวดดู  การประกวดนี้เป็นโครงการประกวดเกี่ยวกับแนวคิดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ลองส่งผลงานการออกแบบชุดครัวไป เพราะเป็นผลงานที่กำลังทำเป็นวิทยานิพนธ์อยู่แล้วค่ะ  สำหรับวิธีการได้ทำการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้มาเป็นเวลากว่าสามเดือนแล้วค่ะ ทั้งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ  ได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษา ก็คือ ผศ.สุรกานต์ รวยสูงเนิน  จุดเริ่มต้นของผลงานนี้ เริ่มจากความสนใจในการออกแบบชุดครัว และได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้สงอายุ ที่ปัจจุบันกำลังเพิ่มสูงขึ้น  โดยนำเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์สังเคราะห์เป็นแนวทางในการออกแบบที่สอดคล้องกับการใช้งานเพื่อประโยชน์ต่อผู้สูงอายุค่ะ”

นายศราวุธ จารุจินดา ประธานสายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “หลังจากที่ธนาคารเกียรตินาคินได้ร่วมมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการประกวดแผนธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์ “KK Biz RE Innovation Awards 2012” ซึ่งได้ปิดรับสมัครผลงานไปเมื่อ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดรวม 162 แผนงานจาก 19 มหาวิทยาลัยและจากประชาชนทั่วประเทศ โดยแผนธุรกิจที่ส่งเข้ามาแบ่งเป็นประเภทสำหรับประชาชนทั่วไป 12 แผนงาน นิสิต นักศึกษา 58 แผนงาน ประเภทการออกแบบแนวความคิดการพัฒนาโครงการ 32 แผนงาน ประเภทแนวคิดธุรกิจ 24 แผนงานและประเภทการสื่อสารการตลาด 36 แผนงาน โดยคณะกรรมการจากธนาคารเกียรตินาคินและผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ได้ทำการคัดเลือก 25 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในโครงการดังกล่าวแล้ว  ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า แผนที่นำเสนอโดยรวมเป็นที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างแท้จริง คณะกรรมการต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิจารณาคัดเลือกผลงานที่โดดเด่นที่สุดในด้าน นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถทำได้จริงและเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม”

ด้านนายอิสระ บุญยัง  นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เปิดเผยว่า “โครงการประกวดดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้ส่งผลงานเข้าประกวดที่มีเวทีอิสระในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการในวงการอสังหาริมทรัพย์สามารถนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้และต่อยอดในธุรกิจได้จริง รวมถึงธนาคารเกียรตินาคินเองก็ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างมากขึ้น และต้องยอมรับว่าแนวทางการตัดสินของโครงการดังกล่าว โปร่งใสมาก ไม่ยึดติดกับสถาบันใดสถาบันหนึ่ง ขนาดผมเป็นคณะกรรมการยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าแผนที่ตรวจเป็นของสถาบันใด นอกจากนี้ธนาคารเกียรตินาคินยังจัด Session ให้คณะกรรมการมานั่งหารือร่วมกันพิจารณาเลือกผลงานที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทอีกด้วย สำหรับการเลือกคณะกรรมการในการตัดสินวันชิงชนะเลิศ เกียรตินาคินพยายามหลีกเลี่ยงอาจารย์หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากสถาบันที่ผ่านเข้ารอบ 25 ทีมสุดท้าย เพื่อให้มีความโปร่งใส ยุติธรรมมากที่สุด นับว่าเป็นการประกวดที่คำนึงถึงผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากที่สุดรายการหนึ่ง”

การประกวดแผนธุรกิจ “KK Biz RE Innovation Awards 2012” นี้ เป็นเวทีอิสระเปิดโอกาสให้ นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่สนใจด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย และสามารถเปลี่ยนความคิดให้ออกมาเป็นแผนธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถทำได้จริง เกณฑ์การตัดสินภายใต้แนวความคิด LIVING INNOVATION ประกอบไปด้วย “ความสร้างสรรค์ (Creativity)” หรือ “ความใหม่ (Newness)” หรือ “ความหนึ่งเดียวไม่ซ้ำใคร (Originality)” ที่เป็น “แนวความคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Concept)” หรือเป็น “นวัตกรรม (Innovation)”  ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงภายใต้เทคโนโลยีที่มีอยู่ และมีโอกาสที่จะเกิดการยอมรับโดยผู้ใช้จำนวนมากถึงระดับหนึ่ง สอง“ความเป็นไปได้ในทางธุรกิจ” พิจารณาเรื่องโอกาสและความเป็นไปได้ที่สอดคล้องกันทั้งหมด สาม ศักยภาพในการสร้างผลเชิงบวกต่อสังคม โดยคำว่า “ผลเชิงบวกต่อสังคม” ใช้ในความหมายกว้าง กล่าวคือจะเป็นเรื่องใดก็ได้ที่เป็นผลดีต่อสังคม ในเรื่องที่ “เข้าใจได้ในระดับสามัญชน” และ/หรือ “คาดคะเนได้ในเชิงจำนวนหรือปริมาณ” และสี่ความน่าสนใจของชิ้นงานที่ส่งเข้าประกวด พิจารณาความน่าสนใจ สามารถดึงดูดความสนใจได้ดีหากนำมาจัดแสดง พร้อมชิงเงินรางวัลกว่า 7 แสนบาท ภายใต้โจทย์ที่ท้าทาย มูลค่าขายของโครงการ 500 ล้านบาท มูลค่าที่ดินไม่เกิน 120 ล้านบาท ณ วันเริ่มลงทุน หากแนวความคิดใดสามารถสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมได้อย่างโดดเด่น ชัดเจน ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าเป็นโครงการที่เกิดขึ้นได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ธนาคารเกียรตินาคินจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการ Matching Idea ของผู้ชนะเลิศและผู้เข้ารอบสุดท้าย กับผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในแนวคิดดังกล่าว ให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าขาย 500 ล้านบาทให้เกิดขึ้นจริง

พิมพ์ชนก ศรีสุริยะมาตย์ / ข่าว

ภาพข่าว : KK Biz Innovation Awards

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.kiatnakin.co.th/th/newsroom/news_detail.php?id=452